Subnet Mask คือ ตัวเลขที่ใช้แสดงว่าส่วนไหนของ IP Address เป็น Network ID และส่วนไหนเป็น Host ID ซึ่ง Subnet Mask จะมีความยาวเท่ากับ IP Address คือ 32 bit โดยในส่วน Network ID นั้นทุก bit จะเป็น 1 และในส่วน Host ID นั้นทุก bit จะเป็น 0

รูปที่ 5 Subnet & Subnet Mask
โดยค่าดีฟอลท์ Net Mask ของแต่ละคลาสนั้นมีดังนี้

รูปที่ 6 Default Net Mask
วิธีการหรือขั้นตอนการทำ Subnet นั้นจะเริ่มต้นจากจากบิตที่มีค่าสูงก่อน ตัวอย่างเช่น เมื่อนำ IP Address class C มาทำ Subnet จะได้ดังนี้

รูปที่ 7 Class C subnet
วัตถุประสงค์หรือเหตุผลในการต้องทำ Subnet นั้น ก็เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการระบบเครือข่าย และป้องกันการมีข้อมูลที่ไม่จำเป็นมากเกินไปในเครื่อข่าย โดยเฉพาะใน Class A และ B ซึ่งมีจำนวน Host ได้ 16,777,124 และ 65,534 ตามลำดับ ซึ่งถ้าไม่ทำการแบ่ง Subnet แล้วเครื่อข่ายจะใหญ่มาก ทำให้ปริมาณ Broadcast มากเกินไป
โดยการทำ Subnet นั้นมีหลักการอยู่ 2 ข้อ คือ
1. หมายเลขส่วนที่เป็น Subnet (Subnet ID) นั้นไม่สามารถเป็น 0 ได้ทั้งหมด โดยหากเป็น 0 ทั้งหมดจะเป็นการอ้างถึง " Network "
2. หมายเลขส่วนที่เป็น Subnet (Subnet ID) นั้นไม่สามารถเป็น 1 ได้ทั้งหมด โดยหากเป็น 1 ทั้งหมดจะใช้สำหรับการ " Broadcast "
วิธีการระบุ Network ของ Subnet
การระบุ Network ของ Subnet นั้นทำได้โดยการ AND กันระหว่าง IP Address กับ Subnet Mask เช่น IP Class B 172.20.33.24 และ Subnet Mask 255.255.224.0
รูปที่ 8 วิธีการระบุ Network ของ Subnet
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น